กระต่ายเป็นสัตว์ที่มีความอ่อนโยนมาก และยังเป็นสัญลักษณ์ของความเมตตา เป็นมิตร อ่อนหวานน่ารัก มีขนปุกปุยทำให้ใครเห็นก็อยากจับมาอุ้ม แต่กระต่ายเป็นสัตว์ที่ตกใจง่าย อาจจะต้องค่อยๆ เข้าหา ในบทความนี้จะมาให้ข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจเลี้ยงกระต่ายมือใหม่แบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นวิธีเลี้ยงกระต่ายที่ถูกต้อง ลักษณะนิสัย อาหารการกิน ที่อยู่อาศัย รวมไปถึงข้อมูลที่สำคัญในการเลี้ยงกระต่าย
ข้อมูลทั่วไปของกระต่าย
กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประเภทสัตว์เลือดอุ่นที่มีขนาดเล็ก มีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ดีมาก ลักษณะเด่นเป็นสัตว์ที่มีขนปุกปุยทั่วลำตัว หางกลมสั้น ใบหูยาวเมื่อเทียบกับสัตว์อื่น มีความว่องไวปราดเปรียวมากในการระแวดระวังภัย
กระต่ายมีขาหน้าที่มี 5 นิ้ว ขาหลังมี 4 นิ้ว มีสะโพกที่ยาวและทรงพลัง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ จึงสามารถกระโดดได้เป็นอย่างดี เคยมีการประกวดการกระโดดของกระต่ายที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตัวที่กระโดดได้สูงที่สุดกระโดดได้สูงถึง 99.5 เซนติเมตรเลยทีเดียว ใต้ฝ่าตีนมีขนนุ่ม ๆ รองรับอยู่ เพื่อมิให้เกิดเสียงเมื่อเคลื่อนไหว
ตาของกระต่ายยังมีหนังตาหรือเปลือกตาถึง 3 ชั้นด้วยกัน ดวงตามีลักษณะกลมโต ทำให้กระต่ายสามารถเหลือบมองภาพด้านหลังได้โดยที่ไม่ต้องหันหัวเลย กระต่ายจัดเป็นสัตว์ที่มีระบบการมองเห็นที่ดีกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ มาก แต่สามารถมองเห็นสีได้เพียงแค่ 2 สีเท่านั้น คือ สีเขียวและสีน้ำเงิน และจะยิ่งมองได้ชัดเจนขึ้นเมื่ออยู่ในที่มืด
อายุโดยเฉลี่ยขึ้นอยู่กับขนาด กระต่ายขนาดเล็กในกลุ่มกระต่ายแคระทั้งหลาย จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 10-12 ปี ส่วนกระต่ายที่มีขนาดใหญ่จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 8-10 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสุขภาพต่างๆ ด้วย
นิสัยและพฤติกรรมของกระต่าย
กระต่ายเป็นสัตว์ที่ตื่นตกใจง่ายและมีความว่องไวปราดเปรียวมากในการระแวดระวังภัย เป็นสัตว์รักสะอาด เนื้อตัวไม่มีกลิ่นเหม็น มีนิสัยสุภาพไม่ดุร้าย สามารถฝึกให้เชื่องได้ กระต่ายไม่ส่งเสียงดังถ้าไม่เจ็บปวด หวาดกลัว หรือเจ็บป่วยจริงๆ เป็นสัตว์ที่ตื่นตัว ตื่นเต้นได้ง่าย ถ้าตื่นเต้นมาก เครียดมาก ตกใจมากอาจจะช๊อคตายได้เลยฉะนั้นถ้าคิดจะเลี้ยงกระต่ายก็ต้องทำความรู้จักให้ดีก่อน
กระต่ายเป็นสัตว์ฟันแทะและกินพืชเป็นอาหารเท่านั้น อาหารที่กินได้แก่ หญ้า และพืชผักชนิดต่างๆ มักอาศัยอยู่ในที่ราบโล่งที่เป็นทุ่งหญ้ามากกว่าป่าทึบ โดยขุดโพรงใต้ดินเป็นรังและที่อยู่อาศัย กระต่ายเป็นสัตว์ที่สืบพันธุ์เร็วปีหนึ่งๆ กระต่ายสามารถออกลูกได้ 2-3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 2-3 ตัว กระต่ายเป็นสัตว์ที่ตื่นตกใจง่าย
ตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นกระต่ายป่าหรือกระต่ายบ้าน จะมีพฤติกรรมกินมูลของตัวเองที่ขับถ่ายออกมา ลักษณะของมูลจะติดกันเป็นพวงหรือเรียกว่ามูลพวงองุ่น ซึ่งมีสารอาหารที่กระต่ายกินเข้าไปอีกครั้งเพื่อดูดซึมสารอาหารที่ยังย่อยหรือดูดซึมสารอาหารไปใช้ไม่หมด
ชนิดของกระต่าย
กระต่ายเป็นสัตว์ที่อยู่สุดปลายของห่วงโซ่อาหาร เป็นสัตว์ผู้ถูกล่าและเป็นอาหารของสัตว์กินเนื้อ เช่น หมา แมว เสือชนิดต่างๆ ชะมด พังพอน นก รวมถึงเป็นอาหารของงูที่มีขนาดใหญ่ อย่างเช่น งูเหลือมหรืองูหลาม ปกติกระต่ายจะมีอายุประมาณ 10 ปี
กระต่ายที่มีอยู่ทั่วโลกจะมี 58 ชนิด ในจำนวนนี้ 44 ชนิด อยู่ในวงศ์กระต่ายธรรมดา และอีก 14 ชนิด อยู่ในวงศ์กระต่ายหูสั้น กระต่ายที่นิยมนำมาเลี้ยงกันอยู่ในปัจจุบันเป็นกระต่ายในวงศ์กระต่ายธรรมดา และยังมีด้วยกันหลายชนิดและหลายลักษณะ การแบ่งสายพันธุ์ของกระต่ายมักใช้ขนาดเป็นเกณฑ์ในการจำแนก ได้แก่ กระต่ายแคระ กระต่ายขนาดเล็ก กระต่ายขนาดกลาง และกระต่ายขนาดใหญ่
การนำกระต่ายมาเป็นสัตว์เลี้ยง ได้รับความนิยมมากรองจากการเลี้ยงหมาแมว และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมีเนียมและอพาร์ทเม้นท์ เพราะเป็นสัตว์ที่สามารถนำมาเลี้ยงดูได้ โดยไม่รบกวนหรือก่อความรำคาญให้กับบุคคลอื่นๆ
สิ่งที่ไม่ควรทำในการเลี้ยงกระต่าย
กระต่ายมีถิ่นกำเนิดจากเมืองหนาว ฉะนั้นจึงไม่ชอบอากาศร้อนๆ ถ้าร้อนมากๆ อาจจะทำให้เกิดอาการเป็นลมแดด เสียชีวิตได้ จึงไม่ควรเลี้ยงในพื้นที่มีแดดจัด และสิ่งที่ไม่ควรทำในการเลี้ยงกระต่ายได้แก่
- ห้ามหิ้วหูกระต่ายเด็ดขาด เพราะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดอยู่เยอะ การหิ้วหูอาจทำให้กระต่ายเจ็บตัวได้
- ไม่ควรให้อาหารประเภทขนมจำพวกแป้ง คาร์โบไฮเดรต เพราะกระต่ายอาจท้องเสียหรือป่วยได้
- อย่าอาบน้ำบ่อยเกินไปประมาณ 3-4 เดือน/ครั้ง
- อย่าเลี้ยงกระต่ายเพราะแฟชั่นหรือกระแสเท่านั้น เพราะหากคุณเบื่อหรือไม่อินกับกระแสแล้ว การไม่ได้ดูแลใส่ใจมากพออาจทำให้กระต่ายเฉยตายได้เช่นกัน
- กรณีที่บ้านเลี้ยงแมวด้วยไม่ควรเอาห้องน้ำแมวที่มีสารดับกลิ่นมาใช้กับกระต่าย เพราะอาจแพ้หรือเกิดการป่วยได้ง่าย ทางที่ดีควรแยกของใครของมัน
วิธีเลี้ยงกระต่ายให้มีสุขภาพดี
- พื้นที่เลี้ยง
การเลี้ยงกระต่ายไว้ในบ้านควรเลือกกรงที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวของกระต่าย พื้นของกรงที่ดูแลง่ายมีการเลือกใช้วัสดุที่ทำจากลวดหรือสแตนเลส ไม่ควรเลือกวัสดุที่หุ้มด้วยพลาสติก เนื่องจากกระต่ายอาจจะกัดแทะวัสดุจนเป็นอันตรายได้นั่นเอง และที่ห้ามโดยเด็ดขาดคือ อย่าเลี้ยงในตู้กระจกเด็ดขาด เพราะทำให้มีอากาศถ่ายเทไม่เพียงพอ เสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ผู้เลี้ยงยังต้องทำความสะอาดกรงและถาดรองทุกวัน
การเลี้ยงไว้นอกบ้านควรเลือกกรงที่ออกแบบให้เหมาะสมกับบริเวณบ้าน ภูมิอากาศ หลังคากรงควรจะเป็นแบบเปิดปิดได้ กันแดดกันฝน และมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อให้ได้มีพื้นวิ่งเล่น ส่วนพื้นกรงควรรองด้วยฟางหรือหญ้าแห้งเพื่อไว้สำหรับนอน ในช่วงหน้าหนาวแนะนำวางกรงให้ห่างจากจุดที่มีลม เพื่อไม่ให้กระต่ายโดนลมจนหนาวเกินไป
- อาหารและน้ำ
อย่างที่ทราบดีว่าอาหารหลักของกระต่ายคือ หญ้า ไม่ว่าจะเป็นหญ้าอัลฟาฟ่า หญ้าทิมโมธี หญ้าขน หรือหญ้าแพงโกล่า แต่สำหรับกระต่ายที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน ผู้เลี้ยงสามารถผสมอาหารเม็ดให้กินรวมกับหญ้าได้ แต่ให้ในปริมาณที่พอดี และเมื่ออายุ 7 เดือนขึ้นไป ผู้เลี้ยงจะต้องให้อาหารเม็ดเป็นบางครั้งคราว และเลือกอาหารเม็ดชนิดที่มีโปรตีน กากใยสูง และไขมันไม่สูง ในส่วนของน้ำดื่มจะต้องเป็นน้ำสะอาด แนะนำใส่ขวดที่มีจุกน้ำแบบหลอดท่อแอร์ หรือแบบที่มีลูกปืน และควรทำความสะอาดขวดน้ำเป็นประจำ
- การอุ้ม
กระต่ายนั้นเป็นสัตว์ที่ตกใจง่ายมาก หากผู้เลี้ยงต้องการอุ้มหรือเล่นกับกระต่ายจะต้องทำให้รู้สึกผ่อนคลายโดยการลูบขนเบา ๆ จากนั้นเอามือสอดเข้าไปใต้ท้องแล้วอุ้ม เมื่ออุ้มได้แล้วอย่าทำให้ตกพื้นเด็ดขาด เพราะจะทำให้กระต่ายได้บาดเจ็บได้ ที่สำคัญไม่ควรจับกระต่ายโดยการหิ้วหูจะทำให้รู้สึกเจ็บ
- การอาบน้ำ
การทำความสะอาดกระต่ายควรใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดเท่านั้น สำหรับเจ้ากระต่ายที่มีอายุต่ำกว่า 3 เดือน หลังจาก 3 เดือน สามารถอาบน้ำได้แต่ต้องไม่นานเกินไป การอาบน้ำที่ถูกต้องควรเตรียมน้ำใส่กะละมังไว้บีบหูเพื่อไม่ให้น้ำเข้า จากนั้นเราก็ใช้น้ำรดตัวและใช้แชมพูฟอกให้ทั่วตัว เสร็จแล้วล้างน้ำให้สะอาดใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง อย่าลืมหวีขนให้กระต่ายด้วย
- การตัดเล็บ
หากเล็บกระต่ายยาวเกินไป ผู้เลี้ยงสามารถตัดเล็บให้น้องได้ เพราะถ้าปล่อยให้เล็บยาวเกินไปเวลาวิ่งอาจจะทำให้เกิดอันตราย รวมทั้งยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค แนะนำควรมีกรรไกรไว้สำหรับตัดเล็บ และควรตัดต่ำกว่าเส้นสีชมพูลงมาหน่อย เพราะหากตัดเข้าไปที่เส้นสีชมพูอาจจะทำให้เลือดไหลและทำให้กระต่ายเจ็บ
- เล่นกับกระต่าย
แม้ว่ากระต่ายจะเป็นสัตว์อ่อนโยน มีเมตตา และน่าทะนุถนอม แต่รู้ไหมว่าเป็นสัตว์ที่เครียดง่ายและชอบให้ลูบหัว อาจหาของเล่นที่เป็นลูกบอลเพื่อใหเล่นอย่างสนุกเพลิดเพลิน หรือใช้เวลาพูดคุยเป็นบางครั้งบางคราว เพื่อให้กระต่ายรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น
- ฝึกขับถ่าย
การฝึกกระต่ายให้ขับถ่ายเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนสักหน่อย โดยเฉพาะกระต่ายที่ติดนิสัยขับถ่ายไม่เป็นที่ แนะนำหากคุณสังเกตว่ากำลังจะฉี่หรืออึให้รีบอุ้มมาวางบนกระบะทันที ทำแบบนี้ไปสักพักจนกระต่ายเริ่มชิน และจะเริ่มขับถ่ายเป็นที่เป็นทางมากขึ้น
เพิ่มเติม : การเลี้ยงกระต่ายควรระวังเรื่องโรค เพราะมีโรคที่คนติดจากสัตว์และโรคที่สัตว์เป็นแล้วไม่ติดคน สำหรับโรคที่พบในกระต่ายจะมีโรคท้องเสียจากเชื้อบิด โรคติดเชื้อราบริเวณฟัน ส่วนโรคที่จะเกิดขึ้นกับคนคือเป็นภูมิแพ้ อย่าง แพ้ขนกระต่าย ดังนั้นควรป้องกันตัวเองและกระต่ายไว้ดีที่สุด
บทสรุป
ทั้งหมดนี้คือวิธีเลี้ยงกระต่ายที่ถูกต้องฉบับมือใหม่ ช่วยให้สามารถดูแลกระต่ายได้อย่างดี ทั้งเรื่องสุขภาพที่ดี การกินการอยู่ปลอดภัย หากเข้าใจวิธีการเลี้ยงแล้วจะรู้เลยว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ควรทำความเข้าใจอีกสักนิดว่ากระต่ายไม่ใช่สัตว์เลี้ยงแค่เอาไว้ดูเล่น ทางที่ดีไม่ควรปล่อยให้อยู่ในกรงตลอดเวลา เพราะอาจทำให้เกิดความเครียดและเกิดอาการป่วยได้ แนะนำเอาใจใส่ ดูแล และให้ความสำคัญกับกระต่ายมากๆ เพื่อให้อยู่กับเราไปได้นานๆ
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
- เสื้อแมว จำเป็นต้องใส่ไหม
- อาบน้ำสุนัข เพื่อลดปัญหาสุนัขไม่ยอมอาบน้ำมีวิธีอย่างไรบ้าง
- สุนัขตาย ควรทำอย่างไรดี
- แมวชอบนอนในกล่อง เพราะอะไร
- วินเทอร์ไวท์ หนูแฮมสเตอร์แคระรัสเซีย
- ปลานีออน ปลาสวยงามไซส์มินิ รักสงบ ชอบอยู่เป็นฝูง
ที่มาของบทความ